Kia เดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถไฟฟ้าด้วยการเตรียมเปิดตัว EV2 รถ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่จะเข้ามาแข่งขันกับรถรุ่นเล็กยอดนิยมอย่าง MINI Aceman และ Jeep Avenger โดยมีกำหนดเปิดตัวในปี 2026 ซึ่ง EV2 รุ่นนี้ถือเป็นรถขนาดเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ในกลุ่มรถไฟฟ้าของ Kia
นายซอง ฮูซอง CEO ของ Kia ได้เปิดเผยว่า Kia EV2 จะตั้งเป้าราคาที่ประมาณ 25,000-30,000 ยูโร (หรือประมาณ917,475 - 1,100,970 บาท) เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถไฟฟ้าในราคาประหยัด โดยการผลิตจะเกิดขึ้นในประเทศสโลวาเกีย และคาดว่า EV2 จะเริ่มวางขายในโชว์รูมยุโรปภายในปี 2026
ตัวต้นแบบของ Kia EV2 ที่ถูกทดสอบในยุโรปเผยให้เห็นรูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายกับรุ่น EV3 แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีรูปทรง SUV ขนาดเล็กที่โดดเด่นด้วยส่วนหน้าตรง กระจกหน้าชัน และราวหลังคาที่เสริมความดุดัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบซ้อนแนวตั้งและเสาสีดำที่เป็นเอกลักษณ์เชื่อมโยงกับรุ่น EV รุ่นพี่อย่าง EV3, EV5 และ EV9 นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอยที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและสวยงาม
ภายในห้องโดยสารของ Kia EV2 นั้นมาพร้อมกับพนักพิงศีรษะดีไซน์ทันสมัยคล้ายกับ EV3 และแผงหน้าปัดดิจิทัล แม้ว่าส่วนอื่น ๆ ของแดชบอร์ดจะถูกปิดบังไว้ แต่หน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่แยกออกมาจากส่วนกลางก็ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากหน้าจอแบบแผงเดียวที่ Kia มักใช้ประจำในรุ่นก่อน ๆ
Kia EV2 คาดว่าจะมีความยาวตัวถังที่ประมาณ 4,000 มม. (157.5 นิ้ว) ซึ่งยาวกว่า Hyundai Inster ที่มีความยาว 3,825 มม. (150.6 นิ้ว) และจัดอยู่ในกลุ่ม A-SUV แต่สั้นกว่า MINI Aceman ที่ยาว 4,079 มม. (160.6 นิ้ว) และ Jeep Avenger ที่ยาว 4,084 มม. (160.8 นิ้ว) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม B-SUV ขนาดเล็ก ด้าน EV3 ของ Kia นั้นมีความยาวมากกว่าที่ 4,300 มม. (169.3 นิ้ว) อยู่ในกลุ่มบนของกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็ก
EV2 คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์ม E-GMP รุ่นย่อซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับรถไฟฟ้าขนาดเล็ก พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและแบตเตอรี่ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรถไฟฟ้าประหยัดงบ ซึ่ง Kia ตั้งใจจะนำเสนอเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในยุคที่ตลาดรถไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจาก Kia EV2 แล้ว แบรนด์เกาหลียังมีแผนพัฒนารถรุ่นที่เล็กกว่าและราคาย่อมเยากว่าในชื่อ EV1 ที่อาจจะมาแทนที่ Picanto ในฐานะรถไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุดของ Kia ในตลาดยุโรป ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและพฤติกรรมการใช้รถของผู้บริโภคที่เน้นความคุ้มค่าและการประหยัดพลังงาน