ฮุนได (Hyundai) หนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์จากเกาหลีใต้ อาจจะไม่ได้ใหญ่โตมากมายในตลาดประเทศไทย แต่ก็ถือว่ามีการเดินหน้าอย่างแข็งขันหลังจากที่บริษัทแม่เข้ามาทำตลาดด้วยตัวเองในรอบปีที่ผ่านมา ที่มีการประกาศนโยบายทั้งเรื่องการทำตลาดสินค้ารุ่นใหม่ การพัฒนาและปรับปรุงเครือข่ายการให้บริการ และการยกระดับมาตรฐานของแบรนด์มากมาย
หนึ่งในสินค้าที่พวกเขาเดินหน้าทำตลาดล่าสุดก็คือการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัวฮุนได ไอออนิค 5 (Hyundai IONIQ 5) พร้อมจับมือพันธมิตรหลายรายในการเปิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไปด้วยกัน ทำให้เราอาจจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ของฮุนได เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้
ก่อนที่สินค้ารุ่นใหม่จะมาถึง ฮุนไดได้เชิญสื่อมวลชนไปร่วมทดสอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นตัวท็อปที่เป็นการนำเข้าลอตแรกมาสำหรับอีวีมีโดยเฉพาะ ซึ่ง Tcar ได้มีโอกาสเข้าร่วมการทดสอบบนเส้นทางกทม.-อยุธยา และพบว่าเป็นรถที่มีความน่าสนใจแบบเฉพาะตัว แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทยมากพอสมควร
ถ้าอยากใช้รถไฟฟ้าแล้วไม่ต้องปรับตัวมาก คันนี้ถือว่าน่าสนใจ แต่ไม่ต้องซื้อตัวท็อปหรอก ประหยัดไปซื้อตัวรองก็พอละ...
การออกแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยเทคโนโลยี
ภายนอกของรถยนต์นั้่นดูเรียบง่ายด้วยเส้นสายแบบเรียบ ๆ และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดทั้งคัน พื้นผิวของตัวถังรอบคันตีโป่งแบบเล็ก ๆ ทำให้ดูเป็นรถที่มีความมน ๆ บนพื้นฐานที่มีขนาดใหญ่พอสมควร กันชนหน้ารูปตัววีที่สะดุดตา สอดคล้องกับฝากระโปรงหน้าแบบโค้งมน มาพร้อมล้ออัลลอย 20 นิ้วในรุ่นท็อป พร้อมด้วหลังคากระจกวิชั่นรูฟ มือจับประตูแบบซ่อนตัวได้ลดการเสียดทานของอากาศขณะวิ่ง จณะที่ไฟส่องสว่างแบบพาราเมทริก พิกเซลทั้่งด้านหน้าและด้านหลัง ที่โดดเด่นและส่องสว่างอย่างชาญฉลาดภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกัน
ห้องโดยสารสำหรับการเดินทางที่สะดวกสบาย
ไอโอนิค 5 ถูกออกแบบมาให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่นั่งได้อย่างสะดวกสบายตลอดการเดินทาง เลือกใช้เบาะนั่งแบบ Zero Gravity Seat พร้อมเบาะคู่หน้าที่ปรับองศาได้หลากหลาย พร้อมด้วยฟังชั่นนวดและระบายอากาศที่ติดตั้งมาให้ เครื่องเสียงคุณภาพสูงจาก BOSE หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่เลือกใช้กรอบสีขาวที่ดูขัดตาไปสักเล็กน้อย มาพร้อมระบบชาร์จไฟแบบไร้สายที่ติดตั้งที่คอนโซลกลางแบบปรับเลื่อนได้ ขณะที่คันเกียร์นั้นอาจจะต้องใช้ความเคยชินสักเล็กน้อยกว่าจะใช้งานได้คล่องตัว
เครื่องยนต์ไม่แพ้ใคร ชาร์จไวเกินสถานี
ไอโอนิค 5 เลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าความแรงสูง 1 ตัว ซึ่งในรุ่นท็อปนั้นมาพร้อมกำลังสูงสุด 217 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 350 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.4 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 72.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ได้ระยะทางวิ่งสูงสุด 481 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP พร้อมความโดดเด่นด้วยการชาร์จไวถึง 350 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายในระยะเวลา 18 นาทีเท่านั้น
ขับง่ายเหมือนรถปกติ ช่วงล่างนุ่มแต่ไว้ใจได้
สิ่งที่ทำให้ฮุนได ไอออนิค 5 เป็นรถไฟฟ้าที่น่าสนใจก็คือความง่ายในการใช้งานรถยนต์คันนี้ ถ้าไม่นับคันเกียร์ที่อาจจะดูงงงงไปบ้างในช่วงแรก รถคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้การขับขี่และการตอบสนองที่ใกล้เคียงกับการเป็นรถยนต์ทั่วไปค่อนข้างมาก การตอบสนองของคันเร่งและเบรกมีความคุ้นชินมากกว่า ช่วงล่างเซตมาค่อนข้างนุ่มนวลแต่ไว้ใจได้ในทุกย่านความเร็ว แถมตัวรถยังมีระบบความปลอดภัยที่พอตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบควมคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ที่ลดความเร็วได้จนรถหยุดนิ่งหรือระบบเตือนมุมอับสายตาเป็นต้น
ถ้าอยากได้ซื้อรุ่นกลางก็พอ แคมเปญดูแลเพียบ
เอาจริง ๆ รุ่นท็อปที่ราคาจำหน่าย 2.399 ล้านบาทอาจจะแพงไปนิด อยากให้ลองไปมองรุ่นรองที่ราคาจำหน่าย 1.899 ล้านบาท ที่ได้ทุกอย่างเกือบเหมือนกันหมด ยกเว้นแค่ล้ออัลลอยที่ลดขนาดเหลือ 19 นิ้ว ตัดหลังคากระจกออก รวมถึงเบาะที่นั่งคู่หน้าเป็นแบบธรรมดา แต่ที่เหลือนั้นเหมือนกันหมด ซึ่งหากเป็นเจ้าของตอนนี้ จะได้แคมเปญบริการหลังการขายมากมาย ทั้งการรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 1.6 แสนกิโลเมตรการรับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 1.5 แสนกิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 10 ปี หรือ 1.5 แสนกิโลเมตร ฟรีแท่นชาร์จที่บ้านรวมค่าติดตั้ง ฟรีบริการชาร์จไฟฉุกเฉินนาน 5 ปี เป็นต้น
ใครอยากได้รถมาขับแบบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก คันนี้น่าสนใจเหมือนกันนะ...